คําประกาศเป็น "รัฏฐาธิปัตย์" ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ภายหลังการประชุมแกนนำ กปปส.ทั่วประเทศ ณ สวนลุมพินี
มากด้วยความมั่นใจเป็นความมั่นใจ 1 ว่า ป.ป.ช.จักต้องวินิจฉัยชี้มูลความผิดของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในกรณีโครงการจำนำข้าวอย่างแน่นอน1 ว่าศาลรัฐธรรมนูญจักต้องทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พ้นสภาพ พ้นสภาพจากกรณีการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี ออกจากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติอันเท่ากับเป็น "สุญญากาศ" ทางการเมืองเป็นสุญญากาศอันนำไปสู่การที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ จะนำรายชื่อ "บุคคล" ซึ่งสมควรดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าฯแล้วนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ ไม่ว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ จะได้ "ความมั่นใจ" เช่นนี้มาอย่างไร แต่ "ความมั่นใจ" นี้ก็ละเอียดอ่อนเป็นอย่างยิ่งเท่ากับ "สะท้อน" ถึง "ทฤษฎีสมคบคิด"วิถีดำเนินแห่งกระบวนการ 3 "สมคบคิด"
อันเป็นเหมือนกระดานหกทะยานไปสู่ภาวะ "สุญญากาศ" และการได้มาซึ่งนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 7ล่อแหลม และหวาดเสียวล่อแหลมเพราะเท่ากับแสดงให้เห็นว่า กระบวนการของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ มิได้เป็นเรื่องของคนคนเดียว หรือคนกลุ่มเดียวหากแต่สัมพันธ์และยึดโยงอยู่กับหลายส่วนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ "มั่นใจ" ได้อย่างไรว่า ป.ป.ช.จะวินิจฉัยไปในทิศทางเช่นนั้น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ "มั่นใจ" ได้อย่างไรว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยไปในทิศทางเช่นนั้นเว้นแต่ว่าจะมีการสมคบคิดกันมาก่อนเว้นแต่ว่า บุคคลซึ่งอยู่ในสถานะแห่ง "ประธาน" กปปส.มากด้วยอิทธิพล มากด้วยบารมีพอที่จะกำกับและบงการให้ ป.ป.ช.วินิจฉัยไปในทิศทางนี้ กำกับและบงการให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไปในทิศทางนี้ อันเท่ากับอำนาจเหนือ ป.ป.ช.มีอยู่ อันเท่ากับอำนาจเหนือศาลรัฐธรรมนูญมีอยู่ยิ่ง หากนำเอากระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่เคยทรงมีต่อการ ได้มาซึ่งนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 7 ว่าเป็นไปไม่ได้มาพิจารณาประกอบ ยิ่งเป็นเรื่องน่าหวาดเสียวน่าหวาดเสียวต่อคำประกาศของนายสุเทพ เทือกสุบรรณอย่ามองข้าม "ความหมาย" ของคำว่า "รัฏฐาธิปัตย์" ในทางรัฐศาสตร์ ในทางการเมืองไปอย่างเด็ดขาดรัฏฐาธิปัตย์คืออำนาจอันยิ่งใหญ่บทเรียนจากการรัฐประหารในอดีตยืนยันในสถานะแห่ง "รัฏฐาธิปัตย์" อย่างเด่นชัดยิ่ง ไม่ว่าจะโดยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ไม่ว่าจะโดยจอมพลถนอม กิตติขจร 2 คนนี้เคยประหารชีวิตคนมาแล้วเมื่อเป้าหมายของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ คือการเป็น "รัฏฐาธิปัตย์" อันอยู่ในสถานะเดียวกันกับจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ และจอมพลถนอม กิตติขจรหรือสถานะของหัวหน้าคณะ "รัฐประหาร"แม้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ จะอ้างฐานที่ยืนของตนคือ "มวลมหาประชาชน" แต่ความเป็นจริงแห่ง "มวลมหาประชาชน" ก็เปราะบางอย่างยิ่งเปราะบางกระทั่งไม่กล้าเข้าสู่กระบวนการของการเลือกตั้งเปราะบางกระทั่งต้องถอยร่นจากที่เคยดำเนินมาตรการ "ชัตดาวน์" กทม. คงเหลือเพียงชัตดาวน์เฉพาะ "สวนลุมพินี"แล้วอย่างนี้ ป.ป.ช.จะเห็นด้วยหรือ แล้วอย่างนี้ศาลรัฐธรรมนูญจะเซย์เยสหรือทั้งนี้ แทบไม่ต้องกล่าวถึงสถานะที่จะทำหน้าที่ "ทูลเกล้าฯ" และ "รับสนอง" พระบรมราชโองการถึงคำประกาศของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ จะมากด้วยความมั่นใจต่อกระบวนตุลาการรัฐประหารกระนั้น ก็มิได้หมายความว่า "องคาพยพ" อื่นๆ ในสังคมประเทศไทยจะเห็นชอบด้วย อย่างน้อย "คนเสื้อแดง" ก็ประกาศออกมาเช่นเดียวกันว่าพร้อมที่จะต่อสู้ คัดค้าน และต่อต้านอย่างสุดตัวโลกนี้มิได้อยู่ด้วย มณี เดียวนา ทรายและสิ่งอื่นมี ร่วมสร้าง
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1396857733&grpid=01&catid=12&subcatid=1200